4Cs ทริกง่ายๆในการเลือกซื้อเพชร

สวัสดีค่ะชาว Jewel Lover ที่รักของMiss Tamtam หลายๆคนคงประสบปัญหานี้ใช่มั้ยคะว่าเวลาเราจะซื้อเพชรสักเม็ด เราจะเลือกยังไงดีนะ ควรดูที่อะไร หรือบางครั้งพอไปดูที่ร้านเพชรแล้วก็เกิดความสงสัยอีกว่า “เพชรขนาดเท่ากันทำไมราคาถึงไม่เท่ากัน” และวันนี้มิสแทมแทมจะมาแก้ไขข้อข้องใจเหล่านี้ พร้อมกับบอกทริกเล็กๆในการเลือกซื้อเพชรให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ โดยทริกของมิสแทมแทมมีชื่อว่า “4Cs” ค่ะ

 

ทริก 4 Cs นี้ถูกคิดขึ้นมาโดย สถานบัน GIA (Gemological Institute of America) ค่ะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับและใช้กันทั่วโลกเลยค่ะ ซึ่งถ้าจะให้มิสแทมแทมอธิบายแบบง่ายๆ 4Cs ก็คือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสวยงามของเพชรค่ะ นอกจากจะมีผลต่อความสวยงามแล้ว 4 ปัจจัยนี้ยังเป็นหลักสำคัญมากๆในการประเมินราคาของเพชรด้วย โดยทริก 4Cs นี้ เวลาเราดูจะแบ่งเป็น Color, Clarity, Cut และ Carat

Color สี ข้อแรกที่มิสแทมแทมอยากให้ทุกคนดูคือเรื่องของสีค่ะ หลายๆคนคงเคยได้ยินคำเหล่านี้มาบ้างใช่มั้ยคะ “เพชรน้ำ 100, เพชรน้ำ 97, เพชรน้ำ 95” ตัวเลขเหล่านี้คือตัวที่บ่งบอกถึงสีค่ะ ซึ่งตัวเลยเหล่านี้จะใช้กันแค่ในประเทศไทยนะคะ ถ้าตามหลักสากลแล้วจะใช้เป็นตัวอักษร D, E, F, G ไล่ลงไปเรื่อยๆค่ะ ยกตัวอย่างการเปรียบเทียบสีระหว่างไทยกับสากลก็จะเป็น เพชรน้ำ 100-98 จะเทียบเท่าสี D-F ของหลักสากลค่ะ โดยเพชรที่ถูกจัดในหมวดนี้จะเป็น เพชรขาวไร้สี (Colorless) หรือเพชรน้ำ 97-95 จะเทียบเท่าสี G-I เป็นเพชรเกรดเกือบไร้สี (Near Colorless)ค่ะ ซึ่งถ้าหากเพชรยิ่งขาวยิ่งไร้สีมากเท่าไหร่ ราคาของเพชรก็จะสูงขึ้นด้วยค่ะ

Clarity ความสะอาด ความสะอาดเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อความสวยงามของเพชรค่ะ เพราะถ้าหากเพชรมีตำหนิแล้วจะทำให้เพชรมีความเปล่งประกายน้อยลง โดยความสะอาดที่ถูกกำหนดลงในใบเซอร์ของทางGIAจะมีตั้งแต่ flawless(FL) ไปจนถึง I3(Imperfect) ค่ะ แต่ถ้าให้มิสแทมแทมแนะนำละก็เวลาซื้อเพชรควรเลือกเกรดความสะอาดอยู่ที่ประมาณ IF จนถึง VS1 ค่ะ

Cut การเจียระไน อาจจะฟังดูแปลก แต่การเจียระไนเพชรของช่างฝีมือก็มีผลต่อความสวยงามของเพชรเช่นเดียวกันค่ะ ดังนั้นหากเวลาไปซื้อเพชรเราจะต้องดูเพชรที่มีรูปทรงที่สมมาตรกัน ขอบเพชรต้องไม่บางไม่หนาเกินไป เหลี่ยมเพชรแต่ละจุดต้องมีลักษณะใกล้เคียงกัน รวมไปถึงการขัดเงาของผิวเพชรด้วยค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อประกายและความระยิบระยับของเพชรด้วยนะคะ

Carat น้ำหนัก  สำหรับน้ำหนักของเพชรมีผลต่อราคาโดยตรงเลยค่ะ ยิ่งเพชรเม็ดใหญ่เท่าไหร่น้ำหนักมากขึ้นเท่าไหร่ ราคาต่อกะรัตก็ยิ่งมากขึ้น ดังนั้นเวลาที่เราเลือกซื้อเพชรเราจะต้องดูในส่วนนี้ด้วย เพราะบางครั้งน้ำหนักของเพชรสองเม็ดต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยแต่ราคาอาจจะแตกต่างกันมากๆเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น เพชรขนาด 1.01 กะรัตกับเพชรขนาด 0.98 กะรัต เพชรสองเม็ดนี้มีน้ำหนักต่างกันเพียง 0.03 กะรัต แต่ราคาแตกต่างกันเกือบครึ่งเลยค่ะ

ดังนั้นหากเวลาที่ชาว Jewel Lover ไปซื้อเพชร นอกจากใช้ทริกดีๆเหล่านี้แล้วควรซื้อเพชรที่มีใบเซอร์รับรองจากสถาบันที่เป็นมาตรฐานสากล ควรเลือกร้านเพชรดีๆที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาในเรื่องเพชร และมีความเชื่อถือได้ อย่าง Tamas Jewelry ที่มีทั้งผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและเพชรทุกเม็ดก็มีใบรับรองมาตรฐานระดับสากลค่ะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพสวยๆจาก

https://4cs.gia.edu/en-us/4cs-diamond-quality/

https://4cs.gia.edu/en-us/diamond-buying-guide/